
Google Glass คือแว่นตาที่ผสมเทคโนโลยีใหม่ทันสมัย
Google พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ให้ได้เห็นอยู่เสมอ ล่าสุดได้พัฒนา แว่นตาที่เรียกว่า Google Glass ขึ้นมาและจะ เริ่ม วางจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกาในปีหน้า 2014 หลายท่านอาจได้เห็นข่าวตามหนังสือพิมพ์หรือ Internet บ้างแล้ว หลายท่านอาจยังสงสัยว่า มันคืออะไรและทำอะไรได้บ้าง ถ้าให้พูดง่ายๆ มันคือ แว่นตาชนิด หนึ่ง ที่มีความพิเศษมหัศจรรย์ โดยใส่เทคโนโลยีเพิ่มเข้าไป ทำให้แว่นตาสามารถทำหน้าที่ได้หลายอย่าง แบบไม่น่าเชื่อ เรียกไว้ว่าเป็นแว่นตาคอมพิวเตอร์ก็ได้ เพราะมันทำได้หลายอย่างเหมือนคอมพิวเตอร์ทำได้เลย
แว่นตากูเกิ้ลทำงานอย่างไร
จากข้อมูล blog ของ Google คาดว่าแว่นตาชนิดนี้ส่วนการแสดงผลน่าจะทำแบบจอ LCD หรือ Amoled ในหน้าจอแสดงผลจะมีข้อมูลต่างๆให้ผู้สวมใส่รับรู้ข้อมูลผ่านหน้าจอนี้ เมื่อต้องการสั่งงานการคลิกทำโดยการ เอียงศรีษะ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถพูดสั่งออกมาเป็นคำสั่งได้ด้วย
ข้อมูล ตัวเครื่อง Google Glass
The New York Tmies สื่อต่างประเทศรายงานว่า ในตัว Google Glass ใช้ระบบปฏิบัติการ Android, ด้านหน้ามีหน้าจอแสดงผลเล็กๆ หน้าจอนี้มีตัวตรวจจับการเคลื่อนไหว, การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมี GPS, และระบบ 3G หรือไม่ก็ 4G, มี Wi-Fi และ Bluetooth หลายๆฟังชั่น ของ Google Glass เหมือนกับระบบ Smartphone รุ่นใหม่ สามารถเชื่อมต่อส่งข้อมูลกันได้ ผ่านทาง Wi-Fi หรือ Bluetooth 4.0, ด้านหน้ามีกล้องสำหรับถ่ายภาพและวีดีโอ
Google Glass ทำอะไรได้บ้าง
จากคลิป video ด้านบน หากได้เปิดดูจะเห็นว่าเมื่อสวมใส่แว่นตานี้แล้ว ผู้สวมใส่เหมือนจะกลายเป็น ผู้รับรู้เหตุการณ์สถาณการณ์ต่างๆที่ต้องการได้ โดยจะมี ผู้ช่วยแสดงอยู่ขอบหน้าจอเล็กๆคอยบอกข้อมูลต่างๆ อย่างเช่นผู้ใส่แว่นตาจะ ลงไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่แว่นตาบอกว่าขณะนี้มันปิดอยู่, ผู้ใส่แว่นถามหาจุดที่วางหนังสือสอนกีตาร์แว่นตา ก็บอกตำแหน่งให้เดินไปหยิบได้อย่างถูกต้อง, Video chat กับเพื่อนๆ และอีกมากมาย |
1 ความคิดเห็น:
พลาสติกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1.เทอร์โมพลาสติก
วัสดุประเภทเทอร์โมพลาสติกจะอ่อนตัวและหลอมเหลวเมื่อได้รับความร้อนและจะแข็งตัวเมื่อทำให้เย็นลง พลาสติกที่แข็งตัวแล้วสามารถนำมาหลอมซ้ำได้ด้วยความร้อนเทอร์โมพลาสติกจึงเป็นวัสดุที่มีสมบัติเหมาะสมสำหรับการขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ด้วยเทคนิคพื้นฐาน เช่น การฉีด การอัดรีด หรือการปั่นเป็นเส้นใย นอกจากนี
้ สมบัติของเทอร์โมพลาสติกที่นำมาหลอมใหม่และขึ้นรูปซ้ำได้ทำให้เกิดประโยชน์จากการใช้วัสดุเศษหรือของเสียจากการผลิต โดยการนำเศษพลาสติกหรือของเสียมาบดและผสมใช้กับเรซินใหม่ อย่างไรก็ดี ข้อควรระวังคือพลาสติกที่ผ่านกระบวนการที่มีความร้อนหลายครั้งสามารถเสื่อมสภาพ หรือทางเทคนิคเรียกว่า Degradation ดังนั้นการนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ควรใช้ผสมในสัดส่วนที่พอเหมาะเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์บางประเภทที่ต้องการสมบัติพิเศษ (ทางแสง) ควรระวังเรื่องความสะอาดของวัตถุดิบและสิ่งเจือปน เช่น เลนส์ไฟรถยนต์ การใช้วัสดุที่ผ่านกระบวนการผลิตมาแล้วอาจกระทบต่อสมบัติของผลิตภัณฑ์ได้มาก โพลิเมอร์ประเภทเทอร์โมพลาสติกอาจได้จากการสังเคราะห์แบบรวมตัว (addition) หรือควบแน่น condensation ซึ่งเป็นพลาสติกที่ใช้งานทั่วไป ได้แก่ PE, PP, PET, nylon, และ PMMA เป็นต้น
2. เทอร์โมเซท
โพลิเมอร์ประเภทเทอร์โมเซท แตกต่างจากเทอร์โมพลาสติกที่โครงสร้างเป็นร่างแหหรือเกิดการเชื่อมโยงกันระหว่างโมเลกุล ซึ่งอาจเป็นผลจากปฏิกิริยาเคมีหรือความร้อน โครงสร้างร่างแห (cross links) จำกัดการเคลื่อนไหวของโมเลกุลโพลิเมอร์ และเมื่อได้รับความร้อนมักจะเลื่อมสภาพ โดยไม่สามารถอ่อนตัว หรือหลอมได้ใหม่ สมบัตนี้ทำให้การนำเทอร์โมเซทกลับมาใช้ใหม่เป็นไปได้ยาก แม้ว่าปัจจุบันจะมีการวิจัยและพัฒนาด้านรีไซเคิลเทอร์โมเซท มากขึ้นก็ตาม
พลาสติกเทอร์โมเซทได้แก่ ฟินอลิคเรซิน อิพอกซี และโพลิยูรีเทน เป็นต้น พลาสติกหรือเรซินเหล่านี้จะใช้งานหรือผ่านขั้นตอนขึ้นรูป ในรูปของเหลวที่มีความหนืดต่ำสามารถไหลไปตามแบบหรือแม่พิมพ์ได้ จากนั้นเรซินจะถูกบ่มโดยความร้อนหรือปฏิกิริยาเคมีทำให้เกิดการแข็งตัว เทอร์โมเซทอีกประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญมาก คือ อิลาสโตเมอร์ได้แก่ ยางวัลคาไนซ์ ยางสังเคราะห์ และเทอร์โมพลาสติกอิลาสโตเมอร์
เทอร์โมเซทมักจะต้องการเวลาเพื่อการแข็งตัวมากกว่าเทอร์โมพลาสติก และอาจต้องมีการตกแต่งหลังจากขึ้นรูป แต่สมบัติที่น่าสนใจคือ การหดตัวหลังขึ้นรูปที่น้อยกว่า และสมบัติความทนต่อความร้อนและสารเคมีที่สูงกว่าเทอร์โมพลาสติก
แสดงความคิดเห็น